tag:blogger.com,1999:blog-19571760799010013002024-02-06T23:58:59.515-08:00เคล็ดไม่รับเคล็ดไม่รับ เรื่องสุขภาพ เเละการออมเงินAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.comBlogger13125tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-88528862687940127002011-08-06T11:42:00.000-07:002011-08-06T11:42:39.888-07:00ทำมัยต้องมีอาชีพ เสริมทำมัยต้องมีอาชีพ เสริม <br />
คุณสามารถตัดสินใจที่จะเลื่อกรูปแบบที่เหมาะสมกับงานที่ทำอยู่ในปัจจุบัณได้ และเมือธุรกิจไปได้ดี หรือสถานการทางการงานเปลียนแปลง คุณก็อาจก้าวมาทำธุรกิจอย่าเต็มตัว<br />
<br />
ดังนั้นเหตุผลที่สำคัญของคำว่าทำมัยเราต้องมีอาชีพเสริม<br />
บางที อาชีพเสริมอาจมีรายได้มากกว่างานประจำ หากโชคดี ธุรกิจที่เราทำอาจเกิดรุ่งขึ้นมา รายได้ก็จะมหาศาล เมื่อมีการเทียบรายได้ เป็นเงินเดือนมีความเป็นอิสระ คือ เราสามารถกำหนดทิสทางการตัดสินใจ และเราเองก็จะไม่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาใคร การที่เป็นเจ้าของธุรกิจเอง จะได้รับการยอมรับจากสังคมมากก่วาการเป็นลูกจ้าง เมื่อธุรกิจดำเนิดไแด้วยดี เราอาจกลายเป็นเถ้าเเก่น้อยได้ <br />
สุดท้ายที่สำคัญ ได้ทำงานที่ท้าทายความสามารถ เราสามารถกำหนดความมั่งคงทางการงานของเราได้ด้วยตนเอง วิเคราะช่องทาง การตลาดก่อนลงมีทำกิน ว่าอาชีพไหนเด่น<br />
<br />
ธุรกิจด้าน สื่อสารสนเทศ <br />
ธุรกิจ ซ่อมเเละขายอุปกรณมือถือ ยังพอไปได้ด้วยเร็ว เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องปรับตัวเร็ว มีการเปลียนแปลงที่เร็วมาก มีการปรับเปลียนราคาที่เร็วแล้วต้องขายเร็ว มีนวัตกรรมการเปลียนรุ่นเรื่อยๆ ตกรุ่นเร็ว ดังนั้นเราต้องรีบขายเเละต้องเปลียนใหม่ให้เร็วAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-13467521889058490082011-08-02T06:59:00.000-07:002011-08-02T06:59:26.830-07:00ชวนคิด อาชีพเสริมรายได้ถ้ารายได้ในกระเป๋า ทำให้คุณรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง<br />
ไหนจะต้องผ่อนรถผ่อนบ้าน ไหน จะต้องกินต้องใช้<br />
อย่าผึ้งท้อแท้ เพราะมีอาชีพเสริม และงานฝีมือหลากหลายอย่าง ให้คุณสามารถจะเกิดงานอดิเรก และความถนัดส่วนตัวให้งอกเงยมาเป็นรายได้ ได้อย่างไม่อยาก<br />
ในยามเศรีษกิจตกต่ำรวมทั้งปัญหาการเมือง แบบนี้ การที่จะลงมือธุรกิจส่วนตัวนั้นลำลากลำบนมากขึ้น ไม่เหมือนเศริษฐกิจรุ่งเรื่องเฟื่องฟูและเงินสะพัด แต่ก็ยังสนใจจะทำธุรกิจ ส่วนตัวอยู่ตลอดเวลาจากผมการวิจัยจำนวนเกินกว่าครึ่งของมนุษย์เงินเดือน ต้องการมีอาชีพที่ 2 หรืออาชีพเสริมกันทั้งนั้นแต่ปัยฃญหาสุดคลาสสิกของการทำอาชีพ โจทย์ ข้อแรกคือ จะทำอะไรดี โตจทยืข้อต่อมาก็คือ แล้วทำอย่างไรซึ่งหนังสือเล่มนี้สามารถตอบโจทย์ให้กับคุณในเรื่องเล่านี้ได้<br />
ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เศรษฐกิจปีนี้ไม่ดีนัก มีข่าวมาเป็นระลอกๆว่า คนจ้าง ลูกกจ้างประจำ ถูกเลิกจ้างครั้งละมากๆ บ้างได้ค่าชดเชย บ้างยังมีปัญหากับนายจ้างอยู่ แม้รัฐจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจบ้างแล้ว แต่ควรคิดว่าตนเป็นที่พึ่งของตนก่อนดีกว่า<br />
อีกหลายคนแม้จะไม่ได้ตกอยู่ในสถานภาพถูกเลิกจ้าง แต่ก็มีแนวคิดที่ต้องการจะทำอาชีพเสริมเพื่อสร้างหลักประกันให้กับการดำเนินชีวิต ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มต้นธรุกิจ (อาชีพเสริมเล็กๆ) มีองค์ประกอบที่จะพอยกตัวอย่างได้ ดังนี้<br />
<br />
1 มีเป้าหมายของตนเองที่ชัดเจน เพราะบางคนก็อยากทำแค่ธรุกิจเล็กๆ เช่น ต้องการมีรถเข็นขายอาหาร ขายน้ำผลไม้ หรือขายขนม ทำของแฮนด์เมดขาย แต่บางท่านก็อยากทำธรุกิจใหญ่มากขึ้นมาอีกนิด แบบต้องการมีพภื้นที่เป็นหลักเป็นแหล่งแน่นอนเพื่อขายหนังสือ หรือขายเสื้อผ้า เป็นตัน<br />
<br />
2 ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ และจากแหล่งใด ต้องตรวจสอบสุภาพทางสุขภาพทางการเงินของเรา หากมีทุนน้อยก็อย่าคิด การใหญ่ หรืออย่ากคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จัดแบ่งเงินเป็นส่วยๆ เช่นเงินค่าใช้จ่าย เงินลงทุน เงินสำหรับฝากธนาคาร หล่งเงินกู้<br />
<br />
3 ทราบความต้องการของตลาด รู้จักข้อมูลของลูกค้าหรือเเ สำหรวจความต้องการว่ามีมากน้อยเพืยงใด<br />
เหมาะกับลูกค้าชนิดใหน แล้ะต้องรู้จักคู่เเข่ง ต้ัองทราบว่าคู่แข่งเรามีจุดเด่นเพียงใดมีจุดด้อยตรงใหน<br />
<br />
4 ต้องมีเวลาว่างพอ คุณมีเวลา ที่จะทำอาชีบเสริม มากน้อยแค่ใหนAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-36246290535084265962011-07-19T09:45:00.000-07:002011-07-19T09:45:50.123-07:006แฟชั่น นำโชคที่สาวซ่าไม่ควรพลาดสาวสวยอย่างเราอาจจะต้องการของนำโชคเล็กๆ น้อยๆเอาไว้เป็นขวัญและกำลังใจ สำหรับปีนี้แฟชั่น8 ชิ้นถือว่าเป็นสุดยอดของนำโชคที่คุณน่าจะมีติดไว้<br />
<br />
1 เสื้อพ้าสีเขียว<br />
สีเขียวคือสีเฮ็ง เฮ็ง เฮ็งประจำปีนี้สีเขียวที่สว่างๆ จะทำให้คนมองสบายตา ส่วนคนใส่ก็จะมีลาบทางการเงิน แต่อย่าใส่เสี้อเขียวกระโปงเขียว เดียวเค้าจะหาว่าต้นไม้ประหลาดเดินได้<br />
<br />
2 กระเป๋าประดับ อัญมณี <br />
คงไม่อย่าจะ หากระเป๋าที่เพรช ระยิบระยับ มาใว้ครอบคลองสักใบ เพราะตอนนี้ของใช้เเฟชั่นประดับ คริสตัล กำลังมาเเรงอยู่แล้ว ถ้าจะให้ดีกระเป๋าที่คุณเลือกควรเป็น สีเหลียมผืนผ้า เพื่อนนำโชคทางด้าน ความรุ่งเรือง การเจริญเติบโต ส่วนคริสตัลจะช่วย ให้ชีวิตมั่นคงสมดุลมากขึ้น สาวๆ ที่สติเเตกง่ายนี้คือคำตอบสำหรับคุณ<br />
<br />
3 ผ้าพันคอ <br />
หลัก ฮวงจุ้ย บอกว่าเครื่องประดับที่จะช่วยคุ้มครองคนใส่ให้อบอุ่นปลอดภัย ประจำปีนี้ก็คือ ผ้าพันคอผืนเล็กๆ นี่ล่ะจะเพิ่มพลัง ดีๆ<br />
ให้คุณเเละยังช่วยเรื่องการเงินด้วย ดีเเบบดับเบิ้ล แถมกิ๊บเก๋อินเทรน์ ไม่ลองแล้ว จะเสียใจ<br />
<br />
4 แหวน วงใหญ่ ข้อนี้สาวๆเปรี้ยวคงลั้นลากว่าใคร แต่ถึงคุณจะเป็นสาวหวานก็สามารถใส่เเหวนเเฟนซี วงโตๆกับเขาได้ กูรูเพ็งสุย เขาบอกว่าถ้าใครใส่เเหวนวงใหญ่ๆ ทั้งที่ให้ เลือกแหวนที่ประดับด้วยอะเมทิสต์ เทอร์คอยส์ หรือหินปะการัง จะนำโชคมาให้คุณตลอดปีไปจนถึงปีหน้าเลย<br />
<br />
5 หยกคู่ใจ <br />
หยกเป็นอัญมนีเเห่งความร่ำรวยประจำปีนี้ เพราะ มันเป็นธาตุไม้ และของสีเขียว อย่าลืมว่าสีเขียวเป็นสีเฮ็ง ถ้าสาวเซ็บมีหยกติดตัวใว้ สักชิ้นไม่ว่าจะเป็นสร้องคอ เเหวน กำไล หรือต่างหูก็ได้ จะช่วยเรื่องสภาพทางการเงิน ของคุณได้มาก และหยก ยังมีพลังงานด้านการรักษาโรค อยู่ในตัว คุณจะได้เเข็งเเรงกระปี๊ กระเป่าได้ตลอดวัน<br />
<br />
6 แจ็กเก็ตสีทอง <br />
การใส่เเจ็กเก็ตสีทองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ว่าชีวิตคุณจะถูกห้อมล้อมด้วยพลังแห่งทองคำซึ่งเป็นธาตุ ที่จะนำความสำเร็จมาใส่และอำนาจมาให้คนสวมใส่ สาวๆวันนี้ที่การงานซบเซา วิธีนี้จะกระตุ้น โชคด้านทางการ งาน ของคุณให้ฟื้นตัวดีขึ้น จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ลองดูก็ไม่เสียหายนิครับAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-9507866275635890142011-07-15T09:34:00.000-07:002011-07-15T09:34:24.935-07:00เเตงผมให้เหมาะกับหน้าร้อนสาวผมสั้น<br />
ไม่ว่าผมตรงหรือผมหยักศก ควรเลือกใช้ผลิตภัณท์จัดทรงผมที่เหมาะกับสภาพเส้นผมและอากาสร้อนๆ ซึ้งเจลเเต่งผมดูจำเป็นอุปกรณ์ ที่จำเป็น ต่อผมสั้น เเละอากาศร้อนมากที่สุด เพาระนอกจากจะทำให้เส็นผมอยู่ตัว เเล้ว ยังทำให้ผมดูมี มิติไม่เเข็งกระด้าง เวลาใช้บีบเจลในปริมาณน้อยๆ เเต่พอดี ขยีด้วยฝ่ามีอทั้งสอง ข้าง จากนั้นก็จักทรงตามต้องการ<br />
<br />
สาวผมตรงประบ่า<br />
หากคุณต้องการให้ผมตรงประบ่ามีมูฟเม้นท์ เเละสสวย หน้าร้อนเเบบนี้ไม่ต้องผึ้งผลิตภัณท์อะไรมาก แค่ใช้แชมพูสระผมให้สะอาด แล้วใช้ครีมนวนผมชลมผมที่เปียกชื้น จากนั้นถิ้ง ไว้ 10 นาที พอผมเเห้ง ก็ใช้นิ้ว เซ็ตผมให้เข้าทรง เท่านี้ผมก็สสวยเข้ากับ ฤดูร้อนเเล้ว<br />
<br />
สวยผมยาวตรง<br />
หน้าร้อนเเบบนี้ใช้วิธีรวบตึงก็คลายร้อนได้ดี แถมทำง่ายด้วยว่าเเล้วก็ขอเเอปเก๋ สักหน่อยด้วยการแต่งผมข้างหน้าให้มีลูกเล่น อาจจะติดกิบ หรือ หวีปาดก็ได้ และข้อสำคัญของการรวมผมก็คือยางรัดผม เลือกเเบบน่ารัก สีเริดๆ น่าจะเวิคร์กับหน้าร้อน แล้วทริคอีกนิดของสาวผมยาวก็คือ ควรใช้แชมพูประเภท Clarifying ที่จะช่วยทำให้ผมบางเบานุ่มสสวย เวลารวบเเล้วจะดูสวยขึ้น <br />
<br />
สาวผมดัดหรือผมหยิกฟู<br />
สไตล์วินเทจคงเหมาะกับสีสันหน้าร้อน และ วิธีจะทำให้เป็นสไตล์วินเทจ ก็ทำได้ง่าย เพียงเลือกหาเครื่องประดับผมไม่ว่าจะเป็นกิ๊บ หวีเสียบผมที่เป็น สไตล์วินเทจมาประดับผมของตัวเอง ก็จะทำให้คุณดูดีขึ้นแล้ว แถมยังอีกนิดอย่าลืมเลือกผ้า ให้เข้ากับสไตล์ด้วยนะAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-5830069837300504202011-07-13T09:34:00.000-07:002011-07-13T09:34:07.691-07:00สุดยอดอาหารที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้จริงคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่โตขึ้นมากับอาหารฟาสต์ฟู้ด จนอาจไม่รู้ว่าผักผลไม้นั้นมีคุณค่าขนาดไหน โดยเฉพาะผักผลไม้ 13 ชนิดนี้ ซึ่งเป็นสุดยอดอาหารที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้จริงๆ<br />
<br />
1.ตำลึง ความดีของตำลึงอยู่ที่มันจะกระตุ้นร่างกายให้ผลิตน้ำดีออกมา น้ำดีจะช่วยให้ลำไส้ขับสารพิษทิ้งไปได้มากขึ้น ร่างกายจึงสดชื่นแข็งแรงตลอดเวลา<br />
<br />
2.แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่ฝรั่งเขาบอกว่าถ้ากินทุกวันไม่ต้องไปหาหมอ เพราะแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยแพกติน ซึ่งจะช่วยจับโคเลสเตอรอลไม่ให้ไปเกาะที่ผนังหลอดเลือด และกำจัดโลหะหนักที่ปนมากับอาหาร อย่างเช่น สารปรอท สารตะกั่ว จากนั้นก็ขับออกเสียจากร่างกาย และยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบางชนิดได้ ถ้ารักจะเป็นสาวรุ่นใหม่ที่สวยสุขภาพดี แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่คุณต้องมีติดบ้านค่ะ1an-healthy-food-2<br />
<br />
3.ขึ้นฉ่าย รสชาติอาจจะไม่แจ่มเท่าไร แต่เรื่องคุณค่าแล้วต้องบอกว่าเริ่ด ขึ้นฉายได้ชื่อมานานแล้วว่าเป็นตัวแม่ของผักประเภทที่ช่วยล้างพิษ น้ำขึ้นฉ่ายช่วยลดความดันโลหิตให้เป็นปกติ ช่วยต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง ทำความสะอาดเลือดคนที่ชอบสูบบุหรี่ควรมีขึ้นฉ่ายติดตู้ไว้ เพราะมันจะทำให้คุณอายุยืนขึ้นอีกหลายปี<br />
<br />
4. อาโวคาโด สาวๆคงรู้จักอาโวคาโดกันจากสรรพคุณในการบำรุงผิว แต่ความดีของอาโวคาโดไม่ได้มีแค่นั้น มันยังช่วยลดโคเลสเตอรอล ทำให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ไม่อุดตัน ช่วยจับสารพิษตัวการก่อมะเร็ง กำจัดสารเคมีที่จะมาสะสมอยู่ในตับ ป้องกันโรคหัวใจ ส่วนเรื่องผมสวยผิวใสนะเป็นผลพลอยได้เท่านั้นเอง<br />
<br />
5.มะนาว ความเปรี้ยวนี้มาพร้อมสรรพคุณในการทำความสะอาดตับ ทำให้เลือดสะอาด ถ้าเอาน้ำมะนาวมาผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติกินทันทีที่ตื่นนอนตอนเช้า จะช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ล้างพิษในลำไส้ และลดความอ้วน<br />
<br />
6.กะหล่ำปลีและพืชตระกูลกะหล่ำ ไม่ได้ดีแค่กินแก้หิว แต่กะหล่ำยังเป็นผักที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็ง ช่วยขับฮอร์โมนบางชนิดออกจากตับ ทำให้ตับสมดุล ทำความสะอาดลำไส้ ระบบย่อยอาหาร ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในลำไส้ ที่สำคัญคนที่มีชีวิตอยู่กับมลพิษจะได้อภินันทนาการในการกำจัดสารพิษที่มา จากท่อไอเสียควันพิษแถมด้วยอีกอย่าง เริ่ดไหมละค่ะ<br />
<br />
7.กระเจี๊ยบ น้ำกระเจี๊ยบมีคุณสมบัติช่วยฆ่าและกำจัดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสออกจากระบบ ทางเดินปัสสาวะ ถ้ามีเชื้อพวกนี้อยู่คุณอาจจะปัสสาวะเป็นเลือด มีอาการปวดท้องอย่างแรง ปัสสาวะไม่ออก เป็นไข้ จนอาจจะช็อกได้ การดื่มน้ำกระเจี๊ยบจึงเท่ากับการดื่มยาดีๆที่ช่วยประกันสุขภาพให้เรานั่น เอง<br />
<br />
8.กระเทียม คนไทยเรามีกระเทียมเป็นยาดีคู่ครัวมานานแล้ว เพราะมันช่วยทำความสะอาดและล้างสารพิษออกจากเลือกและลำไส้ ลดความดันโลหิต ต่อต้านมะเร็ง ช่วยทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น แถมยังฆ่าพยาธิในกระเพาะให้เสร็จสรรพ มิน่า ปู่ย่าตายายของเราถึงแข็งแรง ก็เพราะกินยาดีอยู่ทุกวันนี่เอง<br />
<br />
9. หัวหอม ประโยชน์ของหัวหอมก็เริ่ดไม่แพ้กระเทียม ทั้งช่วยลดโคเลสเตอรอล ทำความสะอาดเลือด ป้องกันโรคหัวใจ ต่อต้านมะเร็งได้หลายชนิด และยังรักษาโรคหอบหืด ภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ เบาหวาน ทำให้ระดับน้ำตาลคงที่ ยิ่งถ้ากินคู่กับกระเทียม งานนี้อายุยืนแน่ๆAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-78457175739238422632011-07-13T09:32:00.000-07:002011-07-13T09:32:32.109-07:00รองเท้ากัดไม่ว่าใครก็คงต้องเคยเจอกับปัญหารองเท้ากัดกัน ซึ้งก็อาจจะมีมาจากหลากหลายสาเหตุ หลักๆ เลยคือ ความ อยากได้ อยากซื้อ คือเเบบว่าเจอ ละ......คู่นี้แหละที่หามานาน เเต่มันเล็กไป ทำยังไงได้ คิดอยู่2 นาที ตัดสินใจซื้อทันที ในใจก็คิดตลอดว่า ซื้อไปเถอะเดียวใส่อีกหน่อย เดียวก็ขยาย ถ้าใครคิดอย่านี้ขอบอกเลยว่า ผิด มหันต์ว่าท่านกำลังทำลายตัวเอาอยู่ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย วันนี้ เรามีสูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับเกี่ยวกับการ เลือกรองเท้าว่าจะซื้ออย่างไรไม่เป็น ภัยต่อเท้าเรา<br />
<br />
1 ต้องทำความเข้าใจ ก่อนว่าขนาดที่รองเท้า แต่ละยี้ห้อที่ติดไว้ บนรองเท้าไม่เท่ากัน เสมอไป จึงควรใส่จริง อย่าซื้อเพียง เเค่เป็นเบอร์เดียวกับที่เราเคยใส่<br />
<br />
2 ไปซื้อรองเท้า ในช่วง บ่ายหรือเย็น เพราะเป็นเวลาที่เท้าเราขยาย ตัวมากที่สุด<br />
<br />
3 เท้าทั้งสองข้างของ คนเราไม่เท่า กัน และขนาดเท้าจะเปลียนไปเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น ก่อนซื้อควรทดลองใส่ทั้งสองข้าง พร้อมรองเดิน เพื่อให้เเน่ใจว่ารู้สึกสบาย เเละกระชับทุกครั้งที่ก้าวเดิน<br />
<br />
4 พื้นรองเท้าด้านในควรมีผิวสัมผัสนุ่น รองรับเเรงกระเเทกที่ เกิดจากการเดินได้ดีเเละไม่มีช่องว่างระหว่าง ฝ่าเท้า เเละพื้นรองเท้าขณะ สวมใส่<br />
<br />
เรามาดูข้อละวังจากสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรองเท้ากันบ้าง<br />
<br />
อาการตุ่มน้ำพองมักเกิดบริเวณที่ผิวหนัง เสียดสี กับรองเท้า หรือถุงเท้า เเละ บริเวณ ที่ ถูกรัดเเน่นทำให้ผิวหนังเหนะหนะ และเพิ่มเเรงเสียดสีกับรองเท้า ซนึ่งถ้าหากเริ่มมีรอยเเดง เเละอาการเจ็บ ถือว่านั่นเป็น สัญญาณเตือนว่าผิวหนังชั้นนอกสุดเริ่ม เเยกตัวออก เเละจะกลายเป็น ตุ่มพองในไม่ช้า <br />
<br />
สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ หรืออยาก ป้องกันตัวจากอาการ รองเท้ากัด ลองนำไปปฎิบัติดู เถอะครับ รับรองว่ารองเท้าของคุณจะไม่ใช่เเค่สวย อย่างเดียว แต่ยัวใส่สบายไม่มีอันตรายอีกด้วย <br />
โดย Ch 108Auttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-89370690067684754932011-07-10T08:39:00.001-07:002011-07-10T08:48:44.834-07:00คิ้วสวยเข้ม ไม่ไกลเกินฝัน ด้วยธรรมชาติ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgPgQCiqCyYDnwh7NHsOAmJtLwQpytUiuHr8DkJ5ryXQcY9kQx-8lrnPwFbz99QLJBj30wX2o0samNdWi6dM9XAuBPHXZtUPHDK9qNrg6NZJaxnF0bYysWzvJkyRCmZBE2U-EQGOhjsJN8G/s1600/20090608165404863.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgPgQCiqCyYDnwh7NHsOAmJtLwQpytUiuHr8DkJ5ryXQcY9kQx-8lrnPwFbz99QLJBj30wX2o0samNdWi6dM9XAuBPHXZtUPHDK9qNrg6NZJaxnF0bYysWzvJkyRCmZBE2U-EQGOhjsJN8G/s320/20090608165404863.jpg" width="212" /></a></div><br />
คิ้วเป็นอวัยะสำคัญที่ใครๆก็คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าเป็นเส็นชี้เป็นชี้ตาย ของความหนาเข้มและหน้าจืดกันเลยทีเดียว ต่อถ้าไม่เแต่งหน้า แต่ถ้าคิ้วดกดำ และได้รูปสวยงามก็จะไม่ทำให้หน้าดูโทรมเหมือนป่วยเท่าไร เพราะเหตุนี้ สาวๆ หลายๆคนจึงฝัน อย่ากจะมีคิ้ว หนาเเละดกดำ อย่างคนอื่น บ้าง ซึ้งเรามีทางสว่างให้คุณเเล้ว<br />
<br />
วิธีๆ ที่จะทำให้คิ้วดูเข้มขึ้นที่สาวๆ คิ้วบางทั้งหลายก็คงจะทำอยู่ก็คือเขียนคิวนั้นเอง เเต่นั้นก็ไม่ถูกใจใช่ไหม เพราะเวลาล้างหน้าออกเเล้วก็กลับมาเป็น สาวหน้าจืดเหมือนเดิม จะดีหรือไม่หากคุณทำคิ้งของคุณให้สวย เขิ้ม ได้อย่างแท้จริง ไม่ต้องเขียนไม่ต้องเติม วิธีเหล่านี้ จะทำให้คิ้วของคุณดกดำได้หากทำติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ<br />
<br />
วิธีต่อไปคิดว่าหลายๆคนคงจะเคยได้ยินมาจาก คุณย่าย คุณยายเเละคุณเเม่ ที่บอกให้นำดอกอัญชันมาบดๆๆ เเล้วทาที่คิ้ว ก็เป็นวิธีที่ได้รับ ผลดีนะ แต่ต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อย วิธีการคือให้นำดอกอัญชันสัก 2-3 ดอก มาขยี้และบี้ด้วยน้ำออกมา เอาถ้วยมารองน้ำไว้ ถ้าน้ำไม่ค่อยออกให้เอาน้ำสะอาดหยดลงบนดอกอันชันสัก 2-3 หยด แล้วขยี้ต่อ จากนั้นนำน้ำที่ได้จากการขยี้ดอกอัญชันมาทาคิ้วก่อนนอนทุกคืน<br />
นวดน้ำมันมะกอก ปริมาณเล็กน้อยบนคิ้วของคุณ โดยนวดเป็นวงกลม ช้าๆ เบาๆ ทุกวัน วันล่ะ 5-10 นาทีจะช่วยให้ขนคิ้วขึ้นมากขึ้น เเละมีสีเข้มขึ้น<br />
<span style="font-size: x-small;"><br />
from นิตยสาร SPICY</span>Auttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-69038023671207841472011-07-09T09:58:00.000-07:002011-07-09T09:58:05.214-07:00ทำดีท็อกแบบ ปลอดภัย ด้วยผักเเละผลไม้<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEji5l1y77QGEyGfkdgj8QgdhBK1r2IqyHZhjOhWvDzYHvW8BFCe2ybLwHEzKQIcv4V8iB1E4zDxsl-cHIJXWEcgsi82FBUk4r87fJCH2BnpLdGUPrF4llr2eLZ4OkJe5c46iF1ahPwwDq-j/s1600/1258371801g03100909.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEji5l1y77QGEyGfkdgj8QgdhBK1r2IqyHZhjOhWvDzYHvW8BFCe2ybLwHEzKQIcv4V8iB1E4zDxsl-cHIJXWEcgsi82FBUk4r87fJCH2BnpLdGUPrF4llr2eLZ4OkJe5c46iF1ahPwwDq-j/s1600/1258371801g03100909.jpg" /></a></div><br />
อยากจะขอเเนะนำ ว่าอาหารที่เรารัปทานกันอยู่ทุกวันนี้ ก็สามารถช่วยล้างสารพิษได้เหมือนกัน เราไปดู 8 อาหารที่ช่วยล้างสารพิษกันเลย จ้า<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgesYVsn-q47Uu7w3vls3_dLR8f2qtvuMkYa_sDCFYHfLf_Z1_zrm8pyNGqXSfWYD-K0nPr7L61VAOZtDVFb1Gbz73Ep_noDj1AdIwu9EfGcaf90LjPSl_JnAHpSotKVNersObN5l4gySA3/s1600/1194427117.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgesYVsn-q47Uu7w3vls3_dLR8f2qtvuMkYa_sDCFYHfLf_Z1_zrm8pyNGqXSfWYD-K0nPr7L61VAOZtDVFb1Gbz73Ep_noDj1AdIwu9EfGcaf90LjPSl_JnAHpSotKVNersObN5l4gySA3/s320/1194427117.jpg" width="320" /></a></div><br />
1 <strong><span style="color: red;">ตำลึง</span></strong> ผักใบเขียวที่ขึ้นข้างรั่ว หาง่าย เเละราคาไม่แพงนี้ ในสมัยก่อนเรามักนำมาทำแกงจืดตำลึงโดยใส่เนี้อ สัตว์น้อยๆ ซึ้งตำลึงมีคุณสมบัติช่วยผลิตน้ำดีที่จะทำให้ลำใส่ขับสารพิษออกจากร่างการได้ดีขึ้น นอกจากนี้สารที่มีอยู่ ในตำลึงยังช่วยให้ตับลายไขมันในร่างกายด้วย<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhnvwdmdYM6cWUHSbELVMXY5pLGBiOdOulDANcgf91JDlmRZM5WAJNVzUXq6kEX8lbG2KcG8PDrHC11Xa8vsoDm_wNXqgzTmDxJ2BFQRecVsuqOTGqg0euksvZZMtB7WB7uSoDH7DRqB-F-/s1600/2_1_%257E1.JPG" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="248" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhnvwdmdYM6cWUHSbELVMXY5pLGBiOdOulDANcgf91JDlmRZM5WAJNVzUXq6kEX8lbG2KcG8PDrHC11Xa8vsoDm_wNXqgzTmDxJ2BFQRecVsuqOTGqg0euksvZZMtB7WB7uSoDH7DRqB-F-/s320/2_1_%257E1.JPG" width="320" /></a></div><br />
2 <strong><span style="color: red;">กระเทียม</span></strong> จากหลายการศึกษาให้ผล ตรงกันถึงคุณสมบัติของกระเทียมในการทำความสะอาดของร่างกาย การกินกระเทียมเพื่อฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ขับเเละฆ่าพยาธิในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะทำความสะอากเส้นเลือด นอกจากนี้ยังต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง เเละทำให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh3yV6Xdaw2xByg5NlWA4VtOlP0WWW9TP0g1p47pwEHCUFoc-6dXOOgwIJSOz4SR8mNq3PuXrlIrSJ2yQYV2Brur7VuzH8Ue9ESMMLvacShoQwbpL6eXN4mkHqQ7WHKTxni9wig8OOMJbTJ/s1600/20110610411_02.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="207" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh3yV6Xdaw2xByg5NlWA4VtOlP0WWW9TP0g1p47pwEHCUFoc-6dXOOgwIJSOz4SR8mNq3PuXrlIrSJ2yQYV2Brur7VuzH8Ue9ESMMLvacShoQwbpL6eXN4mkHqQ7WHKTxni9wig8OOMJbTJ/s320/20110610411_02.jpg" width="320" /></a></div><br />
3 <strong><span style="color: orange;">อโวคาโด</span></strong> อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เเต่ปัจจุบัน เราก็สามารถหาซื้ออโวคาโดได้ จากตลาดทั่วไป ในอโวคาโดมีสาร กลูต้าไทโอน ที่สามารถช่วยลดโคเลสเตอรอลและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ทำหลอดเลือดยืดหยุ่น ทั้งช่วยจับสารพิษ ที่เป็นตัวก่อโรคมะเร็งกว่า 30ชนิด เเละขนะเดียวกันก็ช่วยให้ตับกำจัดของเสียจำพวกสารเคมีเเละโลหะหนัก<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWOSTMN_AcNZA32qvKQl1QQHtrdqhzg4MHBt6obPzRl_aYSluIsvWf8Cyj_cPl3ovDHSj9Ds9r157Z_SYYnavREECCzk0fnFWgaj91pgvHFWgvyFhm1UfhhUfVotj_xalFCZ2MhQkq8U5r/s1600/1228190844.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWOSTMN_AcNZA32qvKQl1QQHtrdqhzg4MHBt6obPzRl_aYSluIsvWf8Cyj_cPl3ovDHSj9Ds9r157Z_SYYnavREECCzk0fnFWgaj91pgvHFWgvyFhm1UfhhUfVotj_xalFCZ2MhQkq8U5r/s1600/1228190844.jpg" /></a></div><br />
4 <strong><span style="color: lime;">กะหล่ำ</span></strong> เต็มไปด้วยสารต่อต้านมะเร็งเเละอนุมูล อิสระ เเละทั้งช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหารรักษาและปกป้องกระเพาะ อาหาร จากแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ พืชตระกลูกระหล่ำได้เเก่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อคโคลี และกะหล่ำปม ผักเหล่านี้ ช่วยทำความสะอาดร่างกาย เเละช่วยกำจัดของเสียจากส่ิงเเวดล้อม เช่นของเสียจากควันบุหรี ควันจากท่อไอเสีย และช่วยให้ตับผลิตเอนไซม์ออกมาให้เพียงพอในการกำจัดของเสีย<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgi0oaipmPLC-ImBlbOc0hcLF-GYBXAkfHB_-_7yO5X5lMAuYf_YA80kIQxOMGS6zae8iX-49TK3asErU0btco4WZjDC-YT6k7wNuQtfICW-692bsEJ8bNBUojhXbFFrHGRrCJeKyBNdgY-/s1600/52698_35317.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgi0oaipmPLC-ImBlbOc0hcLF-GYBXAkfHB_-_7yO5X5lMAuYf_YA80kIQxOMGS6zae8iX-49TK3asErU0btco4WZjDC-YT6k7wNuQtfICW-692bsEJ8bNBUojhXbFFrHGRrCJeKyBNdgY-/s1600/52698_35317.jpg" /></a></div><br />
5 <strong><span style="color: #990000;">บีทรูต</span></strong> พักสีเเดง ที่นิยมใส่ในสลัด นี้นับเป็น ผัก มหัสจรรย์ ประกอบด้วย ไพโรเคมีคอล วิตามิน เเละเกลือเเร่หลายชนิด ซึ่งทำให้บีทรูตมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อโรค ทำความสะอาดเลือด ทำความสะอาดตับเเละระบบน้ำเหลือง อีกทักมีคุณสมบัติพิเศษที่ส่งเสริมให้ร่างกายได้รับออกซิเจนได้มากขึ้น<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhB5mDStJ3dRKMZVg1sB7wIaXOTHVOpz3USZIXYbtq7EQgpb5PjmadASjHTXADM6mCjCGIO-TQG6wrn6CEA_5RAMe3VkAKPS8hKbAHc6DODbirhkgLv5_Rfcv-gRhDiG1qlFJ6aXurZ9PQw/s1600/blue%252520berry.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhB5mDStJ3dRKMZVg1sB7wIaXOTHVOpz3USZIXYbtq7EQgpb5PjmadASjHTXADM6mCjCGIO-TQG6wrn6CEA_5RAMe3VkAKPS8hKbAHc6DODbirhkgLv5_Rfcv-gRhDiG1qlFJ6aXurZ9PQw/s320/blue%252520berry.jpg" width="320" /></a></div><br />
6 <strong><span style="color: red;">บลูเบอรรี่</span></strong> เป็นผลไม้ที่มีค่าแอนติออกซิเเดนท์สูงมากชนิดหนึ่ง และถือเป็นหนึ่งสุดยอดอาหาร รักษาโรค เนื่องจากในบลูเบอรรี่ มีสารแอสไพรินตามธรรมชาติซึ่งช่วยลดการระคายเคือง สารที่มีในบลูอรรี่สามารถเข้าไปขวาง แบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ลดการติดเชื้อในทางเดินปัสสวะ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjRG8NwwqlJ_etRaKrDZu6HYhUcxd3tH02cDRV2ge3UsyA0AQN24nLNnTuREPU_RTpmEzMojTcPb5gtLfDYuVk0nh_xBIh7gmKpN5Hi-Rhb6L3gkj3Rkunuua58QeNACnIK4bs-3jkel1Bu/s1600/170886.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="234" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjRG8NwwqlJ_etRaKrDZu6HYhUcxd3tH02cDRV2ge3UsyA0AQN24nLNnTuREPU_RTpmEzMojTcPb5gtLfDYuVk0nh_xBIh7gmKpN5Hi-Rhb6L3gkj3Rkunuua58QeNACnIK4bs-3jkel1Bu/s320/170886.jpg" width="320" /></a></div><br />
7 <strong><span style="color: blue;">แอปเปิ้ล</span></strong> ประกอบไปด้วยเพกตินสูง เพกตินเป็นไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยจับโคเลสเตอรอล เเละโลหะหนักในร่างกาย ที่ปะปนมากับอาหาร เช่น ปรอท ตะกั่ว ซึ่งทำลายเซลล์สมอง นี่คือเหตุผลที่เราควรจะกินเเอปเปิ้ลเพื่อล้างสารพิษออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเเละเชื้อไวรัส จากการศึกษาทดลองยังพบว่าแอปเปิ้ล ช่วยขับสารเคมีที่ปนเปื้อนในอาหาร ซึ้งก่อให้เกิดการเเพ้ในเด็กเเละทำให้เกิดไมเกรนในผู้ใหญ่ได้<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPFKyxRxLKJUjP3bk8JC8Yhwi3nSa2lwppy_uVdNJza8vrgoP1FoAIFalCaVAhtgDw1AjnMxWC7oPhtKhkH7aA6BNHgtWP0HOZQIFfKpwhMtGACxWxDcGXGpKmbjFAA4Gq6ZjY8Om_9NLT/s1600/original_358536213657362336181.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPFKyxRxLKJUjP3bk8JC8Yhwi3nSa2lwppy_uVdNJza8vrgoP1FoAIFalCaVAhtgDw1AjnMxWC7oPhtKhkH7aA6BNHgtWP0HOZQIFfKpwhMtGACxWxDcGXGpKmbjFAA4Gq6ZjY8Om_9NLT/s320/original_358536213657362336181.jpg" width="320" /></a></div><br />
8 <strong><span style="color: blue;">กล้วย</span></strong> มีคุณสมบัติในการบำรุงและสร้างความเเข็งเเรงแก่กระเพราะอาหาร ในขณะเดียวกันก็ให้เกลือเเร่ที่จำเป็นเเก่ร่างกาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียมช่วยควบคุมระดับของเหลวในร่างกาย โดยช่วยขับของเหลวหรือสารผิษส่วนเกินออกจากร่างกายได้ดีขึ้น การกินกล้วยเป็นประจำยังช่วยป้องกันท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่าย เป็นปกติอีกด้วย<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">Images</span> <span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">from the Internet</span>Auttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-24430474838361984782011-07-08T00:54:00.000-07:002011-07-08T00:54:57.538-07:00ประหยัด<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrI9RaCAtKyo3mUzrUQFNI8RVuCKfqJNU8nLavY4Y5B_zBmgOYnYUc_LQozORkkLtGNWgV7DyjkMGzaGQiLW5ahye5aRmfK9shOIWhX8VgwZwvMG4RqX4h4_-XDfkctpYWZNmC_m7OUuEN/s1600/shopping.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjrI9RaCAtKyo3mUzrUQFNI8RVuCKfqJNU8nLavY4Y5B_zBmgOYnYUc_LQozORkkLtGNWgV7DyjkMGzaGQiLW5ahye5aRmfK9shOIWhX8VgwZwvMG4RqX4h4_-XDfkctpYWZNmC_m7OUuEN/s320/shopping.jpg" width="320" /></a></div><br />
วิธีประหยัดเงินในกระเป๋า ง่ายนิดเดียวเอง<br />
เงินทองปัจจุบันเป็นสิ่งที่หายาก วิธีการประหยัดงเนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ สำหลับยุคเศรษฐกิจฝึดเคือง เช่นนี้ ประหยัดในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าต้องอดอาหารหรือกระทำในสิ่งที่บั่นทอนต่อสุขภาพตัวเอง แต่ควรรู้จักเลือกในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และมีราคาถูกมากกว่า<br />
<br />
วันนี้ขอนำเสนอวิธี ประหยัดเงินในกระเป๋าให้คุณมี ดังนี้<br />
1 เลือกซื้อแต่ของที่จำเป็น อย่าซื้อเพื่อสะสมแต้ม หรือสะสมยอดแลกของแถม ของบางอย่างหากพิจารณาแล้วว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้ในตอนนั้น ก็ให้รอช่วงลดราคาตามเทศกาลต่างๆ ของใช้ฟุ่มเฟือยประเภทเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ควรกลับไปถามตัวเองก่อนว่าอยากได้จริงหรือไม่ซื้อแล้วได้ใช้คุ้มค่าไหม<br />
<br />
2 เปรียบเทียบคุณภาพและราคาสินค้า หากสินค้าสองอย่างมีคุณภาพเท่าเทียมกัน ให้เลือกซื้อของที่ราคาถูกกว่า ไม่ต้องไปยึดติดกับแบรนด์สินค้าที่อาจตั้งราคาไว้สูงเกินจริง <br />
<br />
3 หากแพงแต่ซื้อแล้วคุ้ม ใช้ได้นาน ของมีความทนทาน ก็ยอมจ่ายไปเถอะ ดีกว่าซื้อของราคาถูกมาแต่ต้องซื้อบ่อยๆ อย่างพวกรองเท้า กระเป๋ามือสอง ที่เมื่อคำนวณดูแล้วจ่ายมากกว่าซื้อของแพงชิ้นเดียว เสียอีก อย่าเป็นพวกเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายเลย<br />
<br />
<br />
4 ช้อปแบบวางแผนล่วงหน้า โดยการจดรายการของที่จะซื้อ นอกจากนี้หากของที่จะซื้อมีเพียงแค่ชิ้นสองชิ้น คำนวณค่าน้ำมันรถไป ห้างแล้ว แพงกว่าซื้อที่ร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกให้เปลืองแรง แถมยังเปลืองน้ำมันอีกด้วย<br />
<br />
5 ซื้อเสื้อผ้าเรียบๆ แบบคลาสสิกเก็บไว้บ้าง อย่างพวกเสื้อสูท ชื่อชุดเดรสสีพื้นๆ เพราะของพวกนี้จะสามารถหยิบมาใส่เมื่อไรก็ได้ อาจเอามาประยุกต์นิดหน่อย เท่านี้ ก็ใช้ได้อีกนาน ไม่ตกเทรนด์แน่นอน<br />
<br />
6 ลดการใช้เครดิตการ์ด เพราะเวลาเรารูดซื้อของ จะไม่เห็นเงินสดละลายหายไปต่อหน้าต่อตา กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้ว หรือไม่ก็ใช้แค่ใบเดียว และจ่ายค่าบัตรแบบไม่ผ่อนชำระ <br />
<br />
7 ซื้อของลดราคา เหมาโหลถูกกว่า เพื่อความประหยัดและคุ้มสุดๆ หรือเลือกซื้อ ช่วงซื้อ 1 แถม 1 โดยอาจหารครึ่งกับเพื่อน แต่ก็ต้องดูให้ดีๆ อย่าหลงคำโฆษณา ชวนเชื่อจากสื่อต่างๆ ควรพิจารณาดูเสียก่อนว่ามีความคุ้มค่าจริงๆ<br />
<br />
<span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">Images from the</span> <span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">Internet</span><span title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น"></span>Auttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-57447196414671594102011-07-07T08:42:00.000-07:002011-07-07T08:43:37.105-07:00ออมก่อน รวยก่อน<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0PbMZQ1ya7P1lHciHJAYi36T6KSnv3lRVJmkJMbPbzmGTkruAhJ6TUc-UWreBk01CGKTt9V0pyYAJNV25q5ciYB1n6Pxf7GwLUt4BaRnqeu_k4NtdrhhSmNQhGoMSBO2Rk0bS0070shLR/s1600/53970_003.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh0PbMZQ1ya7P1lHciHJAYi36T6KSnv3lRVJmkJMbPbzmGTkruAhJ6TUc-UWreBk01CGKTt9V0pyYAJNV25q5ciYB1n6Pxf7GwLUt4BaRnqeu_k4NtdrhhSmNQhGoMSBO2Rk0bS0070shLR/s320/53970_003.jpg" width="244" /></a></div><br />
รามีเคล็ดลับ การออมเงิม มาฝาก นะ เพื่อจะได้มีเเนวทางเก็บออมเเละวิธีการใช้เงินอย่าฉลาด เพื่อจะได้ร่ำรวยเพื่ออนาตค กันครับ<br />
เเนวคิด และ วิธีการในการออมเงิน <br />
<br />
เริ่มจากคุณต้องมีวินัยในการออมเงินก่อนโดย.....<br />
1. ฝึกนิสัยคุณให้รู้จักการออม (ใจแข็ง) ต่อจากนั้นคุณก็ไปเปิดบัญชีไว้ 1 บัญชี ไว้สำหรับฝากเงินเก็บ โดยคุณอาจจะเริ่มจาก 5% ของเงินเดือน (กรณีที่เงินเดือนน้อย) หรือก็ 10% (กรณีที่เงินเดือนมากขึ้น) แล้วแต่คุณว่าคุณจะออมกี่ % มันขึ้นอยู่กับตัวเองน่ะว่าจะออมเท่าไรดี โดยที่ต้องมีเงินใช้ไปอีก 1 เดือน <br />
2. คุณต้องลดรายการที่จำเป็นออกบ้าง โดยจดรายละเอียดดูว่า ในแต่ละเดือนคุณใช้จ่ายไม่จำเป็นหรือไม่ แล้วรายการไหนที่สมควรตัดออก ก็ต้องหักห้ามใจตัวเองบ้าง<br />
3. น้อมนำทฤษฎีเศรษฐกิจแบบพอเพียง : 3 ห่วง 2 เงื่อนไข มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน( ลองไปศึกษาดูนะครับ น่าสนใจมากๆๆ )<br />
เห็นไหมคะว่า 3 วิธีง่ายๆ คุณก็มีเงินออมแล้ว<br />
<br />
ลองทำตามดูนะ<br />
1 เคลียร์หนี้ให้หมดก่อน หยุดก่อหนี้ใหม่ ยกเว้นกู้มาซื้อบ้าน ไม่เป็นไร<br />
2 หยุดความอยากได้ในสิ่งไม่จำเป็น บางคนพอเริ่มมีเงินบ้าง ก็เอามาจ่ายอีก ชอบคิดว่าเดี๋ยวได้อย่างนี้แล้วจะพอแล้ว ไม่ซื้ออะไรแล้ว แล้วก็หมดทุกที<br />
3 นำเงินที่เหลือต่อเดือน มาเก็บในรูปแบบต่างๆ ไม่ให้เบื่อกับการฝากเงินอย่างเดียว<br />
เช่น ของผมเดือน 1,2,4,6,7,9,12 ฝากธนาคาร<br />
เดือน3 จ่ายภาษี เดือน5,10 ซื้อทอง เดือน 11 ซื้อ LTF เดือน 8 ประกันชีวิต<br />
ลองๆทำดูก็ได้ครับ ตอนนี้มีเก็บ ล้านนิดๆ,ทองสิบกว่าบาท ไม่มีหนี้ <br />
<br />
*. จัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายประจำเดือน เพื่อให้ทราบว่ารายจ่ายใดจำเป็น รายจ่ายใดสามารถจ่ายน้อยลงหรืองดจ่ายได้<br />
*. ไม่ควรเก็บเงินสดไว้กับตัวมากเกินไป เพราะจะทำให้ใช้จ่ายเงินออกไปได้ง่ายยิ่งขึ้น<br />
*. ชำระหนี้จากการใช้บัตรเครดิตให้เต็มจำนวนและตรงเวลา เพื่อไม่ให้เสียดอกเบี้ยแพงมากขึ้น<br />
*. ออมเงินทันทีที่มีรายได้เกิดขึ้น<br />
<br />
ข้อสำคัญในการออมเงิน ก็คือ จะต้องลงมือเก็บออมโดยไม่มีเงื่อนไข ห้ามผลัดวันประกันพรุ่ง และจะต้องว่างแผนการใช้จ่ายเงินอย่างสม่ำเสมอนะครับ<br />
<br />
<span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">Image from</span> <span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">Internet</span>Auttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-70656259797712146162011-07-07T07:37:00.000-07:002011-07-07T07:37:02.450-07:00คำนวนการออม เป็นรายปี<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUMrZXceBLCZSj3EC6wQc1Ic3kng0KCYYz2Ia-_GK1EBHLmWNOHRoA2tO6i7rTXvvYARCoMJ5uqw_2SJF4m6Jm-Fo-T0dx-EYLvK_jxBlCcR0BFkME2sqTcr2NGY9Nxs7U1DPhXbSKExqK/s1600/money_2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="205" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUMrZXceBLCZSj3EC6wQc1Ic3kng0KCYYz2Ia-_GK1EBHLmWNOHRoA2tO6i7rTXvvYARCoMJ5uqw_2SJF4m6Jm-Fo-T0dx-EYLvK_jxBlCcR0BFkME2sqTcr2NGY9Nxs7U1DPhXbSKExqK/s320/money_2.jpg" width="320" /></a></div><br />
เรามีวิธีช่วยให้คุณ ออมเงินได้พอควรโดยไม่ต้องลำบากหรือยุ่งยากมาก มันเป็นการกระทำที่เข้าทำนองว่า "มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท"<br />
<br />
เงินของเรามักจะหลีกลี้หนี้ ไปจากเรา ทีละเล็กทีล่ะน้อย ตรงโน้นบางตรงนี้บ้าง หากเราสามารถควบคุมการออม เล็กๆน้อยๆ เหล่านี้ (ซึ้งน่าจะไม่ได้มีความลำบากยากเย็น อะไร) ด้วยแล้ว เราก็จะสามารถสร้างเสริม สุขภาพทางการเงินให้ดีขึ้นได้ การทำเช่นนี้เป็นวิธีการอย่างที่คนไทยเรียกกันว่า "เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน"นั้นเองเเต่ในการจิตวิทยาเเล้ว การมีเงินเหลือเก็บจำนวนเล็กน้อยจากการละเว้นไม่ซื้อขนมรับประทาน ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นการออมที่คุ้มค่าอะไรเลย สิ่งที่จะสามารถช่วยเสริมเเรงให้กับการที่กระทำทำนองนี้ได้ได้เเก่ การนำตัวเลขที่เราออมได้ไปคิดรวมกันให้เป็นเวลา 12 เดือน หากคุณรับประทานขนมสัปดาห์ละ 5 แท่ง ก็จะช่วยให้ได้สัปดาห์ละ 200 บาท ซึ้งดูเเล้วไม่หน้าสนใจอะไร แต่ถ้าคิดเป็นปี ก็จะได้เป็นเงินถึง 6500 บาทต่อปี ซึ้งน่าประทับใจมากAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-6663663828758561882011-07-06T02:42:00.000-07:002011-07-06T02:42:01.593-07:00ห้ามใจไม่ให้ ฟุ่มเฟือย<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRG1YDXetopuCiE_7q4Glkwb7H8DweJlAIbxKkI3I8yonptOKxFuZ6kPY3B0mPvSS7fLO7fwDOImuE7uHcevmkaxUBY4IYz6fo-TF4fQO8lUxT5Dx-ZSeuxyRb9b68vTuLJxFK1Z3zXtnr/s1600/34_20090618113741_.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiRG1YDXetopuCiE_7q4Glkwb7H8DweJlAIbxKkI3I8yonptOKxFuZ6kPY3B0mPvSS7fLO7fwDOImuE7uHcevmkaxUBY4IYz6fo-TF4fQO8lUxT5Dx-ZSeuxyRb9b68vTuLJxFK1Z3zXtnr/s1600/34_20090618113741_.jpg" /></a></div><br />
แม้ชิวิตจะเรียบง่าย แต่ในโลคยุคใหม่นี้ เงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน เเล้วเราจะใช้เงินอย่างไร ให้ ไม่ฟุ่มเฟือยล่ะ เรามาดูวิธีที่จะเพื่อขจัดโรคฟุ่มเฟือยกันดีกว่า<br />
<br />
ควรหลีกเลียง การช้อปปิ้งทุกประเภท ไม่ว่าห้างสรรพสิ้นค้า หรือตลาดนัดก็ตาม<br />
โดนโดยเฉพาะช่วงปลายเดือนจะมีของ Sale ล่อตาล่อใจ ให้สาวๆ ล่องลอยเข้าไปในร้านสู่โลกแห่งความฝัน และคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นคุ้มค่าเพราะราคาถูกกว่าครึ่ง โดยที่ไม่ได้นึกถึงเลยว่าเราไม่ได้ต้องการมันสักนิด หรือไม่มันก็ยังไม่จำเป็น เพราะว่าสาวๆ กำลังติดอยู่ในอารมณ์อยากซื้อนั่นเอง ดังนั้นหนทางแก้อยู่ที่การกลับไปนอนคิดที่บ้านก่อน สักพักอารมณ์อยากตรงนั้นก็จะหายไปเอง<br />
<br />
สร้างความบันเทิงจากตัวเองบ้าง มีหลายวิธี อาทิ อ่านหนังสือ นิตยสารที่ชอบ ออกกำลังกาย ร้องคาราโอเกะ ดูหนังที่บ้าน ช่วยขจัดความฟุ่มเฟือยที่ต้องไปใช้บริการจากภายนอก<br />
คิดให้รอบคอบก่อนจ่าย หากเจอของถูกใจหลายชิ้น อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจซื้อ ควรเปรียบเทียบราคากับความจำเป็นในการใช้ และเมื่อซื้อมาแล้วควรใช้ให้คุ้ม<br />
<br />
หยอดกระปุก สร้างนิสัยการออม โดยทุก ๆ วันแบ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินเก็บ อาจจะจำนวนเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อนานวันจะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้<br />
<br />
ไม่พกเงินและบัตรเต็มกระเป๋า วิธี ไม่พกเงินเยอะๆ จะทำให้คุณจำกัดการใช้จ่ายได้อย่างดี รวมทั้งงดใช้เงินอนาคตของบัตรเครดิต แม้ว่าจะมีแต้มสะสมล่อตาล่อใจเท่าไรก็ตาม พกเพียงแค่ 1-2 ใบ ไว้ยามฉุกเฉินก็พอแล้ว<br />
อย่าใช้บัตรแบบผ่อนของหลายใบเกินนะคะ เพราะคุณจะอยู่ในวังวนของความเป็นหนี้ พยายามใช้ให้พอดี แบบที่คุณจะจ่ายได้ ไม่เดือนร้อน<br />
<br />
ถ้าเราขจัดความฟุ่มเฟือย ได้เราก็มีเงินเก็บ และไม่ เป็นหนี้ด้วยนะครับ<br />
<br />
Image from InternetAuttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1957176079901001300.post-1873784492349277082011-07-05T09:58:00.000-07:002011-07-06T01:31:44.612-07:00เป็นหนี้ ต้องมีทางออก<span style="font-size: large;"><strong>3ขั้นตอนเเละ เเนวทางการปลดหนี้</strong></span><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhICLiyVQIqRZH1eQUSmQqm0fZgXwqnQM6C6DKXs4sG-b_P3Selp4xqv1dS4g0_CzMrRfKhtFM0HhMGkKwMukUi4Cd8gcAGGYLPF3CWnMkENsWi1uWx9H7oXu8Rshk174WD1XhrGokASNIh/s1600/ded4.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhICLiyVQIqRZH1eQUSmQqm0fZgXwqnQM6C6DKXs4sG-b_P3Selp4xqv1dS4g0_CzMrRfKhtFM0HhMGkKwMukUi4Cd8gcAGGYLPF3CWnMkENsWi1uWx9H7oXu8Rshk174WD1XhrGokASNIh/s320/ded4.jpg" width="320" /></a></div><br />
"<b>หนี้</b>" คำเล็กๆ สั้นๆ แต่ออกฤทธิ์เขย่าขวัญขั้นรุนแรง<br />
จนกลายเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของโรคนอนไม่หลับสำหลับคนที่หลวมตัว เป็น<b>หนี้</b> ไปแล้วไม่รู้จะเริ่มต้นเเก้ไขยังไง ลองทำตามขั้นตอน ต่อไปนี้นะครับ<br />
<br />
ขั้นตอนที่1<br />
สิ่งแรกที่คุณควรทำ คือการตั้งสติ อย่าตื่นกลัว ปัญหา เพราะปัญหามีไว้ให้เเก้ ตั้งสติจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คุณสมองปลอดโปร่ง จะได้มีเเนวคิด เเละหาวิธีปลดหนีได้<br />
<br />
ขั้นตอนที่2<br />
จดรายรับ-รายจ่ายของแต่ละเดือน<br />
เป็นสิ่งสำคัญ นะครับ เพราะบางคนมัวแต่นั่งกลุ้ม ว่าเงินไม่พอใช้<b>หนี้</b>แต่ครั้นพอจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้ว ก็ต้องตกใจ เพราะรายจ่ายแต่ละเดือน แม่คุณเสียเงินจ่ายค่าสปาให้น้องหมา, ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมมานับสิบตัว โอ้ย! แล้วอย่างนี้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้<b>หนี้</b>ล่ะ<br />
<br />
ขั้นตอน 3<br />
ลดรายจ่ายที่ไม่จำ<br />
ขั้นตอนนี้เป็นข้อที่ต่อเนื่องจากการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพราะหลังจากคุณทราบถึงช่องทางเข้า-ออกของเงินในบัญชีแล้ว ก็จะได้ถึงเวลาพินิจพิเคราะห์กันสักที ว่าจะตัดรายจ่ายใดได้บ้าง เสื้อผ้าแบรนด์เนมแสนแพง เว้นช่วงสักหน่อยดีมั้ย, ค่าสปาน้องหมาแสนรักจะงดก่อนสักระยะ หันมาอาบน้ำให้เอง สร้างความผูกพันแน่นแฟ้นดีกว่าหรือเปล่า …น้องหมาเอ๋ยอดทนนิด ไว้แม่ปลดหนี้เมื่อไหร่ค่อยเข้าสปาอีกทีนะลูก<br />
<br />
ของอย่างนี้มันต้องลองครับ!! เพราะดีไม่ดี หลังตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยแล้ว คุณอาจเหลือเงินไปใช้<b>หนี้</b>ได้อีกมากโขเชียวหล่ะ<br />
<br />
<span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">Image from</span> <span class="hps" title="คลิกเพื่อดูคำแปลอื่น">Internet</span>Auttapolhttp://www.blogger.com/profile/17624596127501603363noreply@blogger.com0